วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ภูมิปัญญาท้องถิ่น








อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกระดึงในจังหวัดเลย เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย เนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงาม ในแต่ละปีจึงมีคนมาเที่ยวเฉลี่ยหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวมักมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อนบนภูกระดึงจำนวนมาก ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งเป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2486 และเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่สองถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.12 ตารางกิโลเมตร (217,575 ไร่) ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึง ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่) มีความสูงอยู่ระหว่าง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร



ภูกุ้มข้าว  จังหวัดกาฬสินธุ์






วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

10 สูตรวิธีรักษาสิวและทำให้หน้าใส ด้วยขมิ้นชันสำหรับใครที่กำลังมองหาสูตร วิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติ หรือวิธีทำให้หน้าใสแบบธรรมชาติ…อย่าได้พลาดค่ะ วันนี้เราได้รวบรวมสูตรวิธีมากมายเกี่ยวกับการรักษาสิวด้วยขมิ้น รวมถึงสูตรหน้าใสด้วยขมิ้นมาฝากค่ะ ซึ่งเป็นสูตร เป็นภูมิปัญญาของคนสมัยแต่ก่อน สำหรับสาวๆ แล้วการใช้ขมิ้นทาผิวหน้าจะทำให้ผิวหน้านุ่มนวล คนมาเลเซียและคนไทยสมัยก่อนจะใช้ขมิ้นในการอาบน้ำ ทำให้ผิวผ่องยิ่งขึ้น วิธีการอาบน้ำด้วยขมิ้นนั้น จะทาขมิ้นหมักไว้ที่ผิวหนังสักพัก แล้วจึงขัดออกด้วยส้มมะขามเปียก นอกจากทำให้ผิวหนังนุ่มนวลแล้ว ขมิ้นยังมีสรรพคุณในการป้องกันการงอกของขน ผู้หญิงอินเดียจึงใช้ขมิ้นทาผิวหนัง เพื่อป้องกันไม่ให้ขนงอก คนพม่าเชื่อว่าถ้าใช้ขมิ้นผสมสมุนไพร ที่ชื่อทาคาน่า ทาผิวเด็กสาวตั้งแต่ยังเล็กๆ จะทำให้เนื้อผิวละเอียดสวย
มารู้จัก ”ขมิ้น” กันเถอะ
ขมิ้นชัน” เป็นพืชสมุนไพร และประโยชน์ของขมิ้นชันกับผิวนั้นไม่ได้แค่ต่อต้านหรือลดการอักเสบหรือ
รักษาสิวเท่านั้น แต่ยังใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัวเพื่อให้มีสีผิวกระจ่างขึ้นด้วยเมื่อใช้เป็นประจำและช่วยฆ่าเชื้อ ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดยังช่วยบำรุงให้สีผิวกระจ่างขึ้นด้วยเมื่อใช้เป็นประจำ ขมิ้นชันได้รับการยอมรับว่าช่วยลดการอักเสบและลดการระคายเคืองเมื่อนำมาใช้กับผิว อย่างที่รู้กันว่าสิวนั้นเกิดจากแบคทีเรีย P.acne ที่ทำให้เกิดการอักเสบหรือบวมแดงที่เราเห็น ซึ่งก็ได้มีการวิจัยว่าขมิ้นชันสามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ได้และสามารถผสมใช้ร่วมกับNeem oil, Tea Tree oil เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ยังมีการวิจัยอื่นที่บอกอีกว่าขมิ้นชันช่วยปรับสภาพผิวเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่มีการผสมขมิ้นชันในเครื่องสำอางที่ขายตามท้องตลาดมากมาย 


สูตรวิธีรักษาสิวและทำให้หน้าใส 

1 สูตรขมิ้นสด + ดินสอพอง + น้ำมะนาว
สูตรนี้ช่วยบำรุง: ผิวหน้าให้ผุดผ่องสดใสอ่อนวัย และช่วยให้สิวยุบเร็ว

ส่วนผสม
ขมิ้นสด (เล็กน้อย)
ดินสอพอง 2-3 เม็ด
มะนาว 1 ผล
วิธีทำ 
นำขมิ้นสดมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปั่นรวมกับดินสอพองและมะนาว จนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียวใช้สำหรับนำมาพอกกับหน้าที่สะอาดแล้วก่อนเข้านอน โดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกผิวหน้าสดชื่นและเต่งตึงขึ้นด้วย ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้งภายในเวลาไม่ถึงเดือนจะสังเกตเห็นว่าผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงจนสามารถสังเกตได้มะนาว จะทำให้ผิวนวลเนียนขึ้นสามารถสัมผัสได้ และเมื่อผสมรวมกันกับผักแว่น ก็จะยิ่งทำให้ผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 


2 สูตรดินสอพองผสมน้ำมะนาว หรือน้ำมะขามเปียก 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง และมีสิวเสี้ยน สูตรนี้สามารถเปลี่ยนจากน้ำมะนาวมาเป็นน้ำมะขามเปียกก็ได้ค่ะ 
ผลที่ได้ : จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มขึ้น รูขุมขนกระชับ และความมันลดลง ให้ผลเร็ว 1-3 วันเห็นผลแน่นอน สิวแห้ง ยุบลง


ส่วนผสม 
ดินสอพองสะตุ 3 - 4 เม็ดใหญ่
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
วิธีทำ 
นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียดด้วยภาชนะที่สะอาด ผสมน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน (มันจะกลายเป็นครีมข้นๆ)
ดินสอพองจะพองตัวขึ้นและมีฟองอากาศ นั่นเพราะดินสอพองกำลังทำปฏิกิริยากับกรดในน้ำมะนาวนั่นเอง
จากนั้นทาครีมดินสอพองจนทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา หรือจะแต้มเฉพาะตรงที่หัวสิวก็ได้ค่ะ ทิ้งไว้ 15 - 20 นาทีหรือจะทาก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้าก็ได้
วิธีล้าง 
ให้ล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วใช้ผ้าเช็ดเบา ๆ บริเวณที่มีสิวเสี้ยน
จากนั้นล้างอีกครั้งด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน
ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง


3 สูตรผงขมิ้นผสมกับน้ำมะนาว 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: ก็เป็นอีกสูตรที่ใช้กันเยอะ โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวเยอะมากบนใบหน้า พอลองใช้สูตรนี้แล้วพบว่า ช่วยลดอาการบวมแดงจากสิว สิวยุบเร็ว สิวและรอยสิวลดลง และหน้าเนียนขึ้นด้วย

วิธีทำ
ผสมผงขมิ้นชันกับน้ำมะนาว หรือถ้าอยากให้ข้นสามารถผสมกับน้ำมันต่างๆได้และแต้มที่สิวก่อนนอน หรือจะพอกทั่วทั้งใบหน้าก็ได้ ถ้าหากคุณเป็นสิวบนใบหน้าเยอะมาก โดยไม่ต้องล้างออก ทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง หรือจนคุณทนไม่ได้เพราะเมื่อพอกแล้วมันจะรู้สึกแสบหน้าค่ะ แต่ถ้าทิ้งข้ามคืนได้จะดีมากกกค่ะ


4 สูตรผงขมิ้นผสมกับน้ำนม หรือน้ำผึ้ง
สูตรนี้ช่วยบำรุง: ช่วยให้สิวยุบเร็วและช่วยบำรุงผิวหน้าให้ผุดผ่องสดใสอ่อนวัย
ผลที่ได้ : ช่วยให้สิ้วเสี้ยนหลุด สมานผิวและรูขุมขนกระชับขึ้น ช่วยรักษาแผลที่เกิดจากสิวอักเสบ ไม่ให้เกิดเป็นแผลเป็น ทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม

วิธีทำ

ครีมขัดและพอกหน้า นำขมิ้นผงผสมกับน้ำนม หรือน้ำผึ้ง จากนั้นล้างหน้า ให้สะอาดแล้วนำขมิ้นที่เตรียมไว้ขัดใบหน้าเบา ๆ จนทั่วพอกไว้อย่างนั้นประมาณ 5 นาที ล้างออกได้ด้วยน้ำอุ่น ๆ

หรืออีกวิธี คือ ใช้เหง้าขมิ้นสดมาหั่นบาง ๆ แล้วตากแห้ง นำมาบดเป็นผงให้ละเอียดผสมกับน้ำนมทาตัวเอาไว้ก่อนจะอาบน้ำทิ้งไว้ 10 - 20 นาที เป็นอย่างน้อย แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือตามด้วยการอาบน้ำชำระร่างกาย ผลที่ได้รับคือ ช่วยให้ผิวนุ่มนวลเนียน แก้โรคผดผื่นคัน หรือจุดด่างดำบนร่างกายให้หายไป 

5 สูตรขมิ้นชันสด 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: สำหรับคนที่ใช้ขมิ้นผงแล้วแพ้ เปลี่ยนมาใช้แบบสดดีกว่าค่ะ (เพราะเคยมีคนที่เกิดอาการแพ้ขมิ้นผง พอเปลี่ยนมาใช้แบบสดก็สามารถใช้ได้ไม่เกิดอาการแพ้ค่ะ)
ผลที่ได้ : ผิวเนียนขึ้น สิวอุดตัน สิวอักเสบ หายหมดค่ะ

วิธีใช้
- นำขมิ้นชันสดมาปลอกเปลือก แล้วนำไปปั่นแล้วเอาไปใส่กระปุกแช่ตู้เย็นไว้ค่ะ พอครบ 1 อาทิตย์ ก็ทำใหม่ค่ะ
- ใช้คอตต้อนบัด จิ้มๆ น้ำแล้วนำมาทาหน้า ก่อนล้างหน้า 10-15 นาที
- ควรใช้ตอนเย็น เพราะหน้าจะเหลือง ต้องล้างประมาณ 2 ครั้งถึงจะออกค่ะ 
6 สูตรน้ำผึ้ง 
น้ำผึ้ง” มีสรรพคุณลดการอักเสบ และติดเชื้ออยู่ด้วย และเร่งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่น้ำผึ้งจึงใช้สมานบาดแผลชนิดต่างๆ
สูตรนี้ช่วยบำรุง: สูตรน้ำผึ้งนี้เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง แพ้ง่าย มะนาวอาจจะทำให้เกิดความระคายเคืองและแห้งมากขึ้น สูตรนี้จึงใช้น้ำผึ้งที่มีคุณสมบัติสมานผิวเข้ามาแทนที่ และยังเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยน้ำมันงา

ส่วนผสม 
ดินสอพองสะตุ 3 - 4 เม็ดใหญ่
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ช้อนชา
น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ 
นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียด ผสมน้ำผึ้งและน้ำมันงา (หรือน้ำมันมะกอกก็ได้) คนให้เข้ากัน
น้ำมาพอกให้ทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา
ทิ้งไว้ 15 - 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
หลังล้างหน้าจะมีความมันของน้ำมันงาหลงเหลืออยู่บ้าง
หากไม่ชอบให้ล้างด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น


7 สูตรน้ำนมขมิ้น 
สูตรนี้ช่วยบำรุง: น้ำนมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และบวกกับขมิ้นที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แก้ผดผื่นคัน และบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งด้วย สูตรนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว

ส่วนผสม 
ดินสอพองสะตุ 4 - 5 เม็ดใหญ่
นมสด 2 ช้อนชา
น้ำขมิ้น 1 ช้อนชา
วิธีทำน้ำขมิ้น
นำหัวขมิ้นมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นแว่นแล้วตำจนแหลก
ผสมน้ำเล็กน้อย กรองเอาน้ำด้วยผ้าขาวบาง
วิธีทำ 
บดดินสอพองสะตุจนละเอียด แล้วคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน พอกหน้าทิ้งไว้ 15 - 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด


8 สูตรขมิ้นแห้ง 25 กรัม + ว่านนางคำ 200 กรัม + ไพล 50 กรัม + ดินสอพอง 1000 กรัม 
ส่วนผสม
นำขมิ้นแห้ง 25 กรัม + ว่านนางคำ 200 กรัม + ไพล 50 กรัม + ดินสอพอง 1000 กรัม
วิธีทำ
นำมาบดผสมกัน ใช้พอกหน้า และตัวเพื่อบำรุงผิวได้ (ถ้าผิวมันใช้ผสมกับน้ำมะกรูดเผาไฟ ถ้าผิวแห้ง ใช้ผสมกับน้ำผึ้ง หรือ นมสด) ควรพอกประมาณ 5 - 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยน้ำเย็น สลับกัน


9 สูตรดินสอพอง ผสมกับขมิ้น 
ขมิ้น มีสรรพคุณ ฆ่าเชื้อโรคอ่อน ๆ มันก็สามารถบรรเทาอาการสิวคุณได้

วิธีทำ
 นำดินสอพองมาผสมกับผงขมิ้น คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มที่หัวสิว แต่ถ้าจะเอามาพอกหน้า ควร ลด ขมิ้นผงลง เพราะคุณอาจจะกลายเป็น ดีซ่านได้


10 ดินสอพอง ผสมกับไพล
ไพล เป็น ญาติกับ ขมิ้น แต่ไพล มีสีเหลืองนวล อ่อนกว่า ขมิ้น
มีสรรพคุณช่วย บำรุงผิว ลดอาการระคายเคือง วิธีทำ นำดินสอพองมาผสมกับไพล คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มที่หัวสิว

วิธีทำ
นำดินสอพองมาผสมกับไพล คนให้เข้ากัน แล้วนำมาแต้มที่หัวสิว หรือนำไปพอกหน้าก็ได้
หวังว่าบทความนี้ คงจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาสิว และมองหาวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติ

สูตรอาหารไทย

 สูตรอาหารไทย : ผัดกะเพราไก่

[ FRIED CHICKEN WITH BASIL LEAVES ]
ิ                    เครื่องปรุง + ส่วนผสม
 
ผัดกะเพราไก่+ไข่ดาว

* เนื้อไก่ 450 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีำคำ)
* กระเทียม 5 กลีบ (สับให้ละเอียด)
* หัวหอมใหญ่ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นบางๆ)
* น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
* ซิอิ๊วดำ 2 ช้อนชา
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง
* พริก 7 เม็ด (ทุบพอแหลกและสับหยาบๆ)
* พริกไทยป่น
หมายเหตุ : สามารถใส่ผักอื่นๆลงไปผัดร่วมด้วยเช่น แครอท, ถั่วฝัก, ข้าวโพดอ่อน เป็นต้น
ใบกะเพรา
ผัดกะเพราไก่+ไข่ดาว

 
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน จากนั้นใส่กระเทียมและผัด 5-10 วินาที ใส่หอมใหญ่ และผัดต่อไปอีกสักพักจนกลิ่นเริ่มหอม ใส่เนื้อไก่ลงต่อและผัดจนเนื้อไก่สุกทั่ว
2. ใส่พริกและซิอิ๊วดำลงไปในกระทะ ผัดต่อไปอีก 15-20 วินาที
 
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และใส่ใบกะเพราลงไปในกระทะ ปิดไฟจากนั้นผัดให้กะเพราผสมกับเนื้อไก่่่จนทั่ว ตักใส่จาน ก่อนเสิรฟโรยหน้าด้วยพริกไทย เสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ในบางครั้งไข่เจียวหรือไข่ดาวมักจะเสิรฟร่วมด้วย
(สำหรับ 2 ท่าน)

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

 ไข่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นอาหารหลักของคนทุกชนชั้นทุกชาติ จากประโยชน์ที่ไข่มอบให้กับร่างกายของคนเรานั่นเอง และต่อไปนี้คือ ประโยชน์ 10 ประการจากการบริโภคไข่ ซึ่งบางอย่างคุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
     1. ไข่เป็นอาหารที่ดีสำหรับดวงตา ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า การรับประทานไข่วันละฟองอาจจะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ทั้งนี้เนื่องมาจากสารคาโรทีนอยด์ที่อยู่ในไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่พบบริเวณตา โดยฉาบอยู่บนผิวของเรตินา เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารทั้งสองอย่างนี้โดยตรงจากไข่มากกว่าอาหารชนิดอื่น

     2. ไข่ทำให้เป็นต้อกระจกน้อยลง จากผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งนักวิจัยยังพบว่า คนที่กินไข่ทุกวันมีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อกระจกน้อยลง อันเนื่องมาจากลูทีนและซีแซนทีนในไข่ดังได้กล่าวมาแล้ว

     3. ไข่อุดมไปด้วยโปรตีน โดย 1 ฟองจะมีโปรตีนคุณภาพดี 6 กรัม และกรดอะมิโนสำคัญอีก 9 ชนิด

     4. ผลจากการทำวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดพบว่า ไม่มีความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างการบริโภคไข่กับการเกิดโรคหัวใจ แถมยังมีผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่พบว่า การบริโภคไข่เป็นประจำยังช่วยป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน เส้นเลือดอุดตันในสมอง และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

     5. ไข่เป็นแหล่งโคลีนที่ดี โดยโคลีนอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี จัดเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการควบคุมการทำงานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวียนของเลือด โดยไข่ 1 ฟองจะมีโคลีนมากถึง 300 ไมโครกรัม

     6. ไขมันในไข่มีคุณภาพดี ไข่ 1 ฟองมีไขมันอยู่ 5 กรัม และมีเพียง 1.5 กรัมเท่านั้นที่เป็นไขมันชนิดอิ่มตัว

     7. แม้ว่าออกจะขัดแย้งกับความเชื่อเดิมๆ แต่งานวิจัยชิ้นใหม่กลับพบว่า การบริโภคไข่แต่พอสมควรจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อปริมาณคอเลสเตอรอล มิหนำซ้ำยังมีการศึกษาพบเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การบริโภคไข่วันละ 2 ฟองเป็นประจำวันไม่มีผลกระทบต่อระดับไขมันในร่างกาย มิหนำซ้ำอาจจะช่วยทำให้ไขมันดีขึ้น โดยผลการวิจัยกล่าวว่า ไขมันอิ่มตัวจะทำให้ระดับคอเรสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าคอเลสเตอรอลที่อยู่ในอาหาร 

     8. กินไข่ได้วิตามินดี เพราะไข่เป็นอาหารเพียงชนิดเดียวที่เป็นแหล่งวิตามินดีตามธรรมชาติ

     9. ไข่อาจจะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานไข่ 6 ฟองต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมลงร้อยละ 44

     10. ไข่ทำให้เส้นผมและเล็บมีสุขภาพดี เพราะว่าไข่มีซัลเฟอร์สูง รวมถึงยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิด หลายคนจึงพบว่าผมยาวเร็วขึ้นหลังจากที่เพิ่มไข่เข้าไปในอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เคยขาดอาหารที่มีซัลเฟอร์หรือวิตามินบี12 มาก่อน 

                  การบริโภคไข่ที่เหมาะสม                  แม้ว่าไข่จะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่หลายคนก็ยังกังวล ฉะนั้นการกินไข่ในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี โดยคนแต่ละวัยสามารถบริโภคไข่ได้ดังนี้

          - เด็กอายุ 1 ปีจนถึงเด็กวัยเรียนสามารถบริโภคไข่ได้วันละ 1 ฟอง
          - ผู้ใหญ่ที่มีภาวะร่างกายปกติสามารถบริโภคไข่ได้ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์
          - คนวัยทำงานสุขภาพดี สามารถบริโภคไข่ได้วันละ 1 ฟองทุกวัน ไม่เพิ่มคอเลสเตอรอลและไม่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
          - กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคที่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงสามารถบริโภคไข่เพียง 1 ฟองต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ 




ธรรมสอนใจ "กรรมเรื่องคู่"

เป็นวิทยาทานให้กับทุกท่านนะคะ ลองฟังกันดูแล้วจะได้ข้อคิดอะไรมากมายเลยค­่ะ
แล้วเราจะมองอะไรในความรักหลายมุมมากขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ยาสมุนไพร



เขื่อนลำปาว เป็นเขื่อนดิน อยู่ในเขตอำเภอสหัสขันธ์อำเภอคำม่วงอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ห่างจากจังหวัดกาฬสินธุ์ประมาณ 36 กิโลเมตร
เขื่อนลำปาวสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2511 ปิดกั้นลำน้ำปาวและห้วยยางที่บ้านหนองสองห้อง ทำให้เกิดเป็นอ่างเก็บน้ำแฝดทางด้านเหนือเขื่อน จึงได้ขุดร่องเชื่อมระหว่างอ่างทั้งสอง สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะ
เขื่อนลำปาวมีความสูงจากท้องน้ำ 33 เมตร สันเขื่อนยาว 7.8 กิโลเมตร สามารถกักเก็บน้ำได้ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนประตูระบายน้ำ เป็นแบบเปิด ไม่มีประตูปิดกั้นให้น้ำใหลตลอดเวลา(ใหลเฉพาะช่วงฤดูฝน) ปัจจุบัน เขื่อนลำปาวเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา มีสถานที่พักผ่อนหย่อยใจ ได้แก่ หาดดอกเกด ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นสวรรค์ชายหาดของคนอีสาน





ฟ้อนกลองตุ้ม หรือฟ้อนส่วยมือ เป็นการฟ้อนรำที่เก่าแก่และโบราณ ของชาวอีสาน ในอดีตนิยมฟ้อนด้วยผู้ชายทั้งหมด เป็นการฟ้อนรำประกอบจังหวะกลองตุ้ม ใช้ประกอบขบวนในการแห่บั้งไฟ 

การฟ้อนกลองตุ้มมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน 
 - แบบที่หนึ่ง คือ การฟ้อนเป็นจังหวะในรูปแบบการฟ้อนแห่เป็นขบวน  
 - แบบที่สอง คือการฟ้อนประกอบทำนองกาพย์เซิ้ง เพื่อขอเหล้าหรือปัจจัยไทยทาน 
เมื่อพิจารณาที่มาของการฟ้อนกลองตุ้มในแบบที่สอง จะเห็นได้ว่า มีความเกี่ยวเนื่องกับประเพณีบุญบั้งไฟ เพราะมีทำนองเป็นเช่นเดียวกันกับทำนองเซิ้งบั้งไฟ แต่มีช่วงจังหวะที่ช้าเนิบนาบกว่า 

เครื่องดนตรี
เครื่องดนตรีที่ใช้ในการบรรเลงมีเพียง 3 ชิ้น ได้แก่ กลองตุ้ม ผางฮาด และสไน อาจจะมีฉิ่งและฉาบร่วมประกอบจังหวะด้วย

อุปกรณ์ในการแสดง
- ส่วยมือ เป็นอุปกรณ์ในการสวมนิ้วมือทั้งสิบ ทำมาจากหวายหรือไม้ไผ่ก้านยาว ปลายด้านหนึ่งสานให้เป็นกรวย เพื่อสวมเข้ากับนิ้ว ตัวก้านมีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร แล้วพันด้วยด้ายสีต่างๆ ที่ปลายสุดของไม้มีพู่สีขาว นิยมพันด้ายให้เหมือนกับสีของธงชาติไทย
- ฝ้ายขาว ทำมาจากเส้นฝ้ายหรือไหมพรมสีขาว มัดแล้วตัดเป็นข้อๆ ใช้พาดไหล่ทั้งสองข้างคล้ายกับการใส่สร้อยสังวาล มักใช้กับฟ้อนกลองตุ้มในจังหวัดอุบลราชธานี
- ในจังหวัดศรีสะเกษ  จะมีเครื่องประดับที่ใช้ในการฟ้อนกลองตุ้ม คือ กระจกบานเล็กห้อยเป็นสร้อย แล้วใช้ใบตาลสานเป็นสร้อยสังวาลแทนฝ้ายขาว และสวมแว่นตาดำ

ปัจจุบันการฟ้อนกลองตุ้มได้คลี่คลายมากขึ้น ซึ่งแต่เดิมจะฟ้อนด้วยผู้ชายทั้งหมด บางหมู่บ้านที่มีการฟ้อนกลองตุ้ม มีผู้หญิงเข้ามาร่วมฟ้อนด้วย แต่ยังคงแต่งกายเป็นผู้ชายทั้งหมด และในสถานศึกษาได้นำมาดัดแปลงมาใช้แสดงบนเวที ร่วมกับวงโปงลาง ซึ่งจะสามารถหาชมได้จากสถาบันการศึกษาทั้ง 2 แห่งนี้ คือ 

ฟ้อนกลองตุ้มของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ได้ดัดแปลงให้เป็นการแสดงบนเวที โดยให้นักแสดงที่เป็นผู้หญิงล้วน แบ่งเป็น2 ด้าน ด้านหนึ่งจะแต่งกายเป็นผู้ชาย อีกด้านจะแต่งเป็นชุดสตรีแบบพื้นเมืองอีสาน ซึ่งได้ดัดแปลงท่วงท่าบางส่วนผสมผสานกับการแสดงของวงโปงลางด้วย

การแต่งกาย
- ฝ่ายชาย สวมเสื้อย้อมครามแขนสั้น นุ่งโสร่ง ใช้ผ้าขิดสีแดง 4 ผืน คือ พาดเฉียงไหล่ทั้งสองข้าง โพกศีรษะ และมัดเอว สวมสร้อยคอเงิน และนิ้วทั้งสิบสวมส่วยมือ
- ฝ่ายหญิง สวมเสื้อแขนกระบอก ห่มทับด้วยสไบขิด นุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่ยาวคลุมเข่า ผมเกล้ามวยประดับมวยผมด้วยดอกไม้ สวมเครื่องประดับเงิน และนิ้วทั้งสิบสวมส่วยมือ


ฟ้อนกลองตุ้มของวิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด ได้ดัดแปลงการฟ้อนกลองตุ้มแบบโบราณมาผสมผสานกับการแสดงบนเวที คือ จะมีการฟ้อนร่วมกันระหว่างผู้ชายและผู้หญิงด้วย แทนการฟ้อนแบบโบราณ ซึ่งจะมีแค่ผู้ชายเท่านั้น โดยการแสดงในช่วงแรกจะบรรเลงแบบโบราณ คือใช้เพียงกลองตุ้ม ผางฮาด และสไน ช่วงที่สองจะบรรเลงด้วยวงโปงลาง ในจังหวะและทำนองที่สนุกสนานเร้าใจ

การแต่งกาย
- ชาย สวมเสื้อย้อมครามแขนสั้น นุ่งโสร่ง ใช้ผ้าขิดสีเขียว 3 ผืน คือ พาดเฉียงไหล่ทั้งสองข้างและมัดเอว ใช้เส้นฝ้ายสีขาว 2 เส้นเฉียงทับบนสไบ ศีรษะสวมหมวกกาบเซิ้ง และนิ้วทั้งสิบสวมส่วยมือ
- หญิง สวมเสื้อแขนกระบอกสีแดง ไหล่ทั้งสองข้างห่มทับด้วยสไบขิดสีเขียว 2 ผืนใช้เส้นฝ้ายภูไทสีขาว 2 เส้นเฉียงทับบนสไบ นุ่งโสร่งอย่างผู้ชาย  ศีรษะสวมหมวกกาบเซิ้ง สวมเครื่องประดับเงิน และนิ้วทั้งสิบสวมส่วยมือ 

เซิ้งสวิง วงแคน มมส.

บันทึกการแสดง ดนตรีนาฏศิลป์อีสาน
โครงการศูนย์สืบสานและเผยแพร่ศิลปะดนตรีนา­ฏศิลป์อีสาน
ชมรมนาฏศิลป์และดนตรีพื้นเมือง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
(โครงการตลาดประกอบฝันปีที่ 3)



เซิ้งกระหยัง

เป็นชุดฟ้อนที่ได้แบบอย่างมาจากเซิ้งกระติบข้าว โดยเปลี่ยนจากกระติบข้าวมาเป็นกระหยัง ซึ่งเป็นภาชนะทำด้วยไม้ไผ่ มีลักษณะคล้ายกระบุงแต่มีขนาดเล็กกว่า เซิ้งกระหยัง เป็นการแสดงอย่างหนึ่งของชาวกาฬสินธุ์ โดยอำเภอกุฉินารายณ์ได้ประดิษฐ์ขึ้น โดยดัดแปลงและนำเอาท่าฟ้อนจากเซิ้งอื่นๆ เช่น เซิ้งกระติบข้าว เซิ้งสาละวัน ฯลฯ เข้าผสมผสานกันแล้วมาจัดกระบวนขึ้นใหม่มีอยู่ 19 ท่า ซึ่งมีชื่อเรียกต่างๆ กัน เช่น ท่าไหว้ ท่าไท ท่าโปรยดอกไม้ ท่าขยับสะโพก ท่าจับคู่ถือกะหยัง ท่านั่งเกี้ยว ท่าสับหน่อไม้ ท่ายืนเกี้ยว ท่ารำส่าย ท่าเก็บผักหวาน ท่ากระหยังตั้งวง ท่าตัดหน้า ท่าสาละวัน ท่ากลองยาว ท่ารำวง ท่าชวนกลับ ท่าแยกวง ท่านั่ง 
ที่ได้ชื่อว่าเซิ้งกระหยังเพราะผู้ฟ้อนจะถือกระหยังเป็นส่วนประกอบในการแสดง

เครื่องแต่งกาย ฝ่ายหญิงสวมเสื้อแขนกระบอกสีดำ หรือน้ำเงินขลิบขาว นุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่ ผมเกล้ามวยทัดดอกไม้ ฝ่ายชายสวมเสื้อม่อฮ่อมกางเกงขาก๊วย ใช้ผ้าขาวม้าคาดเอว และโพกศีรษะ
เครื่องดนตรี ใช้ดนตรีพื้นเมืองอีสานซึ่งประกอบด้วย กลองยาว ฉาบ และฉิ่ง ซึ่งเป็นเครื่องกำกับจังหวะ ใช้แคน พิณ ปี่แอ้ เป็นเครื่องดำเนินทำนอง 
อุปกรณ์การแสดง กระหยัง
วงดนตรีพื้นบ้านโปงลางจากโรงเรียนผดุงนารี จ.มหาสารคาม 






ปาฏิหารย์ พระธาตุนาดูน

ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ เมื่อมีงูนับร้อยปรากฏอยู่บนองค์พระธาตุนา­ดูน จังหวัดมหาสารคาม


วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

งานบุญบั้งไฟประจำปี 2556 เทศบาลตำบลแวงน่าง อำเภอเมืองมหาสารคาม

วันที่ 1 มิถุนายน 2556
โรงเรียนบ้านหนองแวง

จัดสวนให้สวยงามมากด้วยประโยชน์ใช้สอย

การจัดสวน (มุมมองส่วนตัว)  ว่าด้วยเรื่องสวนๆที่ควรจะสวย



โครงการศิลปนิพนธ์ทางศิลปะการแสดง (การสอบทักษะศิลปะการแสดงขั้นสูง) 20 ธันวาคม 2555

อาจารย์ผู้ถ่ายทอดกระบวนท่า อาจารย์ชุมเดช เดชภิมล
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ วิภารัตน์ ข่วงทิพย์
ขับร้องโดย อาจารย์ชุมเดช เดชภิมล

ผู้สอบ นายวัชรวงศ์ สาดี นางสาวชลบุรี อะหันตะ
วิชาเอกนาฏยศิลป์พื้นเมือง ภาควิชาศิลปะการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

รองเท้าส้นเตารีด หลากสีสัน แฟชั่นมันส์ ๆ สำหรับสาวเปรี้ยว


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก twang.co.kr , shoesone.co.kr , vanillamint.net , stylenanda.comและ crazygirls.co.kr 

          วันนี้ขอเอาใจสาว ๆ ที่ชอบใส่รองเท้าส้นสูงเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองเป็นพิเศษสักนิด ด้วยการนำอีกหนึ่งแฟชั่นส้นสูงที่มีดีไซน์เก๋ไก๋แบบไม่ธรรมดา เพราะเป็นรองเท้าที่มีพื้นหนา หรือที่เรียกกันว่า “รองเท้าส้นเตารีด” ที่ไม่ว่าจะหยิบมาใส่กับเสื้อผ้าแนวไหนก็เพิ่มความน่ารัก ความเปรี้ยวได้ไม่แพ้รองเท้าส้นเข็มหรือส้นสูงแบบอื่น ๆ แถมยังรองรับน้ำหนักและการทรงตัวได้ดีเลยทีเดียว หากใครอยากรู้แล้วว่าหน้าตาของรองเท้าส้นเตารีดจะสวยซ่าและน่ารักขนาดไหน ไปติดตามกันเลยค่ะ  

          เคล็ดลับการเลือกใส่รองเท้าส้นเรารีดให้สวยมั่นใจ : นอกจากรูปทรงและสีสันที่สวยถูกใจแล้ว สาว ๆ ควรเลือกไซส์รองเท้าส้นเตารีดที่มีขนาดพอดีกระชับเท้า ทั้งยังควรลองใส่เดินดูว่าสวมใส่สบายหรือไม่ เนื่องจากรองเท้าส้นเตารีดบางคู่นั้นมีน้ำหนักมาก ทางที่ดีจึงควรใส่แล้วลองเดินเสียก่อน ส่วนคุณผู้หญิงที่มีขาค่อนข้างใหญ่และอวบ การใส่รองเท้าส้นเตารีดอาจจะยิ่งทำให้คุณดูขาใหญ่และตันมากกว่าเดิม ดังนั้นสาวขาใหญ่อาจเลือกเป็นรองเท้าส้นเตารีดลายทางตรงหรือไม่มีสายรัดข้อเท้า เพื่อช่วยเพิ่มมิติให้เรียวขาดูเรียวยาวมากยิ่งขึ้น